เลือกภาษา
Bioplasma Cell

Bioplasma (ไบโอพลาสม่า)

        เป็นเครื่องมือที่ช่วยรักษาและขจัดต้นเหตุการเกิดสิวเรื้อรัง สิวผด สิวติดสเตียรอยด์ ผิวแพ้ง่าย ผิวหยาบกร้าน ผิวอักเสบ ริ้วรอยเหี่ยวย่น หรือสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ด้วยการนำเทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ ส่งผ่านพลังงานพลาสมาแบบเย็น เข้าไปช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นให้มีการสร้างเซลล์ผิวขึ้นมาใหม่ ลดอาการอับเสบของสิว  โดยไม่มีบาดแแผล ไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด  และควบคุมการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

หลักการทำงาน

         นวัตกรรมของเครื่องไบโอพลาสมา เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุร่วมกับไมโครแฟรกชั่นแนลพลาสมา (Radiofrequency technology with Micro-fractional plasma Module : BIOPlasma) ก่อให้เกิดการเหนี่ยวนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีแรงดัน และคลื่นความถี่สูง ชนิดเป็นจังหวะ ผ่านพลังงานไปยังหัวจ่ายกึ่งตัวนำไฟฟ้า ทำให้เกิดพลังงานพลาสมา ซึ่งมีประจุอิสระบวกและลบ โอโซน และลำแสงโฟนตอนสีน้ำเงิน ออกมาทำให้เกิดการขจัดเซลล์ผิวชั้นนอกอย่างอ่อนโยน ระดับไมโครลึกลงไปถึงเซลล์ของผิว ทำให้สามารถขจัดคราบเคราตินที่อุดตัน และช่วยขจัดต้นเหตุของการเกิดสิว (P-acne) ขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออก  ขจัดเชื้อจุลาชีพเล็กๆ ที่เกาะบนผิว รวมถึงสามารถขจัดจุดด่างดำที่เกิดจากเม็ดสีที่ผิดปกติหรือผิวที่ตายแล้วออก เกิดกระบวนการซ่อมแซมผิวหนังที่อักเสบติดเชื้อ ลดกระบวนการอักเสบของผิวหนัง และจากคลื่นเรดิโอฟรีเควนซี่ ซึ่งมีผลต่อต่อมไขมันและการเกิดขน โดยคาดว่ากลไกคือ เกิดโคแอ๊กกูเลชั่น (coagulation) และต่อมไขมันหดตัว พร้อมมีการหยุดการทำงานชั่วคราว ปรับการสร้างเคอราตินให้กลับสู่ภาวะปกติ ส่งเสริมให้เกิดการหดตัวของชั้นผิว ก่อให้เกิดการกระชับผิว รวมถึงในระยะยาวจะส่งเสริมให้เกิดการเรียงตัวของชั้นคอลลาเจนในผิวดีขึ้น  ทั้งยังเกิดปฏิกิริยากับพื้นผิวชั้นนอกเกิดเป็นพลังงานโอโซนเป็นแสงสีน้ำเงินม่วง สามารถฆ่าเชื้อ ช่วยรักษาสิว และช่วยให้ลดอาการอักเสบที่เกิดจากสิวหรือผื่นแพ้ให้ดีขึ้นและหายไปในที่สุด อีกทั้งประจุอิสระ ยังช่วยการดูดซึมของสารอาหารลงสู่เซลล์ผิวได้ดีขึ้น เมื่อหลังทำจะสังเกตุเห็นได้ว่าผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น สุขภาพผิวดี และยังช่วยในการกระชับผิวอีกด้วย โดยพลังงานพลาสมาเย็นนี้ จะให้อุณหภูมิประมาณ 40-42 องศา ไม่ก่อให้เกิดบาดแผล ไม่มีอาการเจ็บปวด 

 

ผู้ที่เหมาะสม

  1. ผู้มีปัญหาสิว
  2. ผิวเสีย ผิวหยาบกร้าน
  3. ผิวติดสเตียรอยด์
  4. ผู้ที่มีปัญหาสิวผด
  5. ผื่นแพ้
  6. ผู้ที่มีปัญหาหน้ามัน
  7. รูขุมขนกว้าง
  8. โรคผิวหนัง
  9. แผลเรื้อรัง และแผลทุกชนิด
  10. ริ้วรอยแห่งวัย ผิวไม่กระชับ
  11. ผิวหมองคล้ำไม่สดใส หม่นหมอง

 

 ข้อควรระวังและผลข้างเคียง

  1. หลังทำควรพักหน้าเป็นระยะเวลา 15-20 นาทีก่อนแต่งหน้า
  2. หลังทำอาจมีอาการบวม แดง เล็กน้อย และจะหายไปเอง
  3. หลังทำอาจเกิดขุ่ยเล็กน้อยที่ใบหน้า
  4. หลังหน้าแห้งเล็กน้อย

 

ข้อห้ามในการใช้

  1. ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ติดเครื่องกระตุ้นหัวใจ
  2. บริเวณที่ใส่โลหะ

 

 

11 ก.พ. 2563 15:38   780 Views
ส่งต่อบทความนี้ให้ผู้อื่น
FACEBOOK
LINE




บทความน่าสนใจ
บทความทั้งหมด
เวชศาสตร์ชะลอวัยคืออะไร        การมีสุขภาพดีและมีชีวิตที่ยืนยาวเป็นสุดยอดปรารถนาของคนทุกคนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เวชศาสตร์ชะลอวัยและการฟื้นฟูสุขภาพ (Anti-Aging and Regenerative Medicine) ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้คุณบรรลุเป้าหมายนั้นได้!        ร่างกายเราเป็นเหมือนรถยนต์ ถ้าเราเช็คสภาพรถทุกระยะตามที่กำหนด เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องไม่เคยขาด ตรวจเช็คอุปกรณ์เครื่องยนต์เสมอ รถของคุณก็ใช้ได้นานกว่ารถที่มีปัญหาบ่อยๆ เพราะไม่เคยได้รับการตรวจเช็คอย่างละเอียด เช่นเดียวกับร่างกายของเรา เมื่อก่อนเราจะมาหาหมอก็ต่อเมื่อเราเจ็บไข้       ได้ป่วยเท่านั้น และยังมีอีกคนอีกจำนวนหนึ่งที่คิดว่าการตรวจร่างกายประจำปีเพียงพอต่อสุขภาพแล้ว ความคิดเหล่านั้นอาจไม่ถูกทั้งหมด เพราะภายในร่างกายของเรายังมีส่วนบกพร่องที่ยังแฝงตัวอยู่        การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลตนเองจาก ‘การรักษา’ มาเป็น ‘การป้องกันและฟื้นฟู’ คือจุดกำเนิดของศาสตร์แห่งการฟื้นฟูสุขภาพ หรือ Regenerative Medicine คำว่า Regenerative ตรงกันข้ามกับคำว่า Degenerative ที่หมายถึงความเสื่อมและถดถอยของร่างกาย ความชราเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนหลีกหนีไม่ได้ แต่ด้วยวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบันที่พัฒนาไปไกลกว่าเดิมมาก ทั้งนวัตกรรมในการผลิตเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell) และโคลนนิ่งสิ่งมีชีวิต เราจึงมีวิธีที่จะช่วย ‘ชะลอ’ ความเสื่อมของร่างกายและในขณะเดียวกันก็เร่งการ ‘ฟื้นฟู’ ให้ร่างกายกลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง        Regenerative Medicine คือศาสตร์ทางการแพทย์ที่ใช้ป้องกันและฟื้นฟูร่างกายให้ดูดีจากภายในสู่ภายนอกแบบองค์รวม โดยจะมีการเช็คอัพร่างกายด้วยวิธีตรวจเลือด น้ำลายและปัสสาวะ คือตรวจเจาะลึกลงไปในระดับชีวโมเลกุล เพื่อดูว่าร่างกายมีความไม่สมดุลในเรื่องใดบ้าง (ความละเอียดระดับนาโน)        เมื่อตรวจพบต้นตอของปัญหานั้นแล้ว แทนที่จะใช้ยาเป็นตัวรักษา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะช่วยปรุงวิตามินอาหารเสริมแบบเฉพาะบุคคล (Customized supplements) ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ เพื่อเข้าไปช่วยฟื้นฟูร่างกาย และทำให้ร่างกายแข็งแรงและอ่อนวัยมากยิ่งขึ้น        ข้อดีของศาสตร์การแพทย์ด้านนี้ คือ นอกจากเป็นการดูแลแบบองค์รวมให้ร่างกายดูดีจากภายในสู่ภายนอกแล้ว ยังเป็นตรวจเพื่อดูถึงต้นเหตุที่ทำให้เกิดภาวะบกพร่องต่างๆ ไม่ว่าจะจากกรรมพันธุ์ สิ่งแวดล้อม การใช้ชีวิตประจำวัน ความเครียด การนอน และ การรับประทาน อาหารในแต่ละวัน        การรักษาในปัจจุบัน หากมีอาการเจ็บป่วย 10 อาการ เราอาจจะต้องไปปรึกษาแพทย์ถึง 10 แผนกด้วยกัน แต่ด้วยศาสตร์แห่งการชะลอวัย และฟื้นฟูสุขภาพ ที่จะเจาะลึกลงไปดูที่ต้นเหตุ และดูแลคนไข้แต่ละคนแบบองค์รวม (Holistic approach) เมื่อเราช่วยให้ปัญหาหลักคลี่คลายลงแล้ว อาการอื่นๆ ก็จะทุเลาลงไปเอง โดยที่ไม่ต้องรับประทานยาเพิ่ม        ด้วยจุดเด่นข้างต้นนี้เอง จึงไม่น่าแปลกที่ กระแสของ Anti-Aging and Regenerative medicine จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีการขยายวงกว้างไปในอีกหลายประเทศ จากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ไปสู่ประเทศต่างๆในแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา ในประเทศสหรัฐอเมริกามีการพัฒนาด้าน Anti-Aging and Regenerative medicine อย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันกลายเป็นผู้นำของศาสตร์การแพทย์ด้านนี้ Credit: Health Brings Wealth Magazine Issue: 8
อ่านบทความ
Bioplasma (ไบโอพลาสม่า)         เป็นเครื่องมือที่ช่วยรักษาและขจัดต้นเหตุการเกิดสิวเรื้อรัง สิวผด สิวติดสเตียรอยด์ ผิวแพ้ง่าย ผิวหยาบกร้าน ผิวอักเสบ ริ้วรอยเหี่ยวย่น หรือสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ด้วยการนำเทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ ส่งผ่านพลังงานพลาสมาแบบเย็น เข้าไปช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นให้มีการสร้างเซลล์ผิวขึ้นมาใหม่ ลดอาการอับเสบของสิว  โดยไม่มีบาดแแผล ไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด  และควบคุมการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ   หลักการทำงาน          นวัตกรรมของเครื่องไบโอพลาสมา เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุร่วมกับไมโครแฟรกชั่นแนลพลาสมา (Radiofrequency technology with Micro-fractional plasma Module : BIOPlasma) ก่อให้เกิดการเหนี่ยวนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีแรงดัน และคลื่นความถี่สูง ชนิดเป็นจังหวะ ผ่านพลังงานไปยังหัวจ่ายกึ่งตัวนำไฟฟ้า ทำให้เกิดพลังงานพลาสมา ซึ่งมีประจุอิสระบวกและลบ โอโซน และลำแสงโฟนตอนสีน้ำเงิน ออกมาทำให้เกิดการขจัดเซลล์ผิวชั้นนอกอย่างอ่อนโยน ระดับไมโครลึกลงไปถึงเซลล์ของผิว ทำให้สามารถขจัดคราบเคราตินที่อุดตัน และช่วยขจัดต้นเหตุของการเกิดสิว (P-acne) ขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออก  ขจัดเชื้อจุลาชีพเล็กๆ ที่เกาะบนผิว รวมถึงสามารถขจัดจุดด่างดำที่เกิดจากเม็ดสีที่ผิดปกติหรือผิวที่ตายแล้วออก เกิดกระบวนการซ่อมแซมผิวหนังที่อักเสบติดเชื้อ ลดกระบวนการอักเสบของผิวหนัง และจากคลื่นเรดิโอฟรีเควนซี่ ซึ่งมีผลต่อต่อมไขมันและการเกิดขน โดยคาดว่ากลไกคือ เกิดโคแอ๊กกูเลชั่น (coagulation) และต่อมไขมันหดตัว พร้อมมีการหยุดการทำงานชั่วคราว ปรับการสร้างเคอราตินให้กลับสู่ภาวะปกติ ส่งเสริมให้เกิดการหดตัวของชั้นผิว ก่อให้เกิดการกระชับผิว รวมถึงในระยะยาวจะส่งเสริมให้เกิดการเรียงตัวของชั้นคอลลาเจนในผิวดีขึ้น  ทั้งยังเกิดปฏิกิริยากับพื้นผิวชั้นนอกเกิดเป็นพลังงานโอโซนเป็นแสงสีน้ำเงินม่วง สามารถฆ่าเชื้อ ช่วยรักษาสิว และช่วยให้ลดอาการอักเสบที่เกิดจากสิวหรือผื่นแพ้ให้ดีขึ้นและหายไปในที่สุด อีกทั้งประจุอิสระ ยังช่วยการดูดซึมของสารอาหารลงสู่เซลล์ผิวได้ดีขึ้น เมื่อหลังทำจะสังเกตุเห็นได้ว่าผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น สุขภาพผิวดี และยังช่วยในการกระชับผิวอีกด้วย โดยพลังงานพลาสมาเย็นนี้ จะให้อุณหภูมิประมาณ 40-42 องศา ไม่ก่อให้เกิดบาดแผล ไม่มีอาการเจ็บปวด    ผู้ที่เหมาะสม ผู้มีปัญหาสิว ผิวเสีย ผิวหยาบกร้าน ผิวติดสเตียรอยด์ ผู้ที่มีปัญหาสิวผด ผื่นแพ้ ผู้ที่มีปัญหาหน้ามัน รูขุมขนกว้าง โรคผิวหนัง แผลเรื้อรัง และแผลทุกชนิด ริ้วรอยแห่งวัย ผิวไม่กระชับ ผิวหมองคล้ำไม่สดใส หม่นหมอง    ข้อควรระวังและผลข้างเคียง หลังทำควรพักหน้าเป็นระยะเวลา 15-20 นาทีก่อนแต่งหน้า หลังทำอาจมีอาการบวม แดง เล็กน้อย และจะหายไปเอง หลังทำอาจเกิดขุ่ยเล็กน้อยที่ใบหน้า หลังหน้าแห้งเล็กน้อย   ข้อห้ามในการใช้ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ติดเครื่องกระตุ้นหัวใจ บริเวณที่ใส่โลหะ    
อ่านบทความ




J Biohealth, Bioactive Peptide อาหารเสริม และนวัตกรรมทางสุขภาพที่เหมาะสมกับท่านที่สุดในเวลานี้

ติดต่อเรา
Tel: 088 830 1890
Tel: 081 542 9685
Tel: 089 291 4443
Email: JongsawadiClinic@gmail.com