เลือกภาษา
Chelation (คีเลชั่น)

คีเลชั่นคืออะไร?

การฟื้นฟูหลอดเลือดโดยคีเลชั่น (CHELATION THERAPY)

กำจัดสารโลหะหนัก ฟื้นฟูหลอดเลือด กระตุ้นการไหลเวียนระบบโลหิต ให้ร่างกายกลับมาสดชื่นสมบูรณ์แข็งแรง

คีเลชั่น คือ การให้สารนำ้ทางหลอดเลือดดำ (ให้น้ำเกลือ) ที่มีสารประกอบประเภทกรดอะมิโน ที่เรียกว่า EDTA ผสมกับวิตามินและแร่ธาตุ ซึ่ง EDTA ทำหน้าที่สำคัญในการจับสารโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู หรือแม้แต่แคลเซียมส่วนเกิน ซึ่งสะสมตกค้างในเนื้อเยื่อและพอกอยู่ตามผนังหลอดเลือดของเรา เป็นอันตรายต่อผนังเซลล์และผนังหลอดเลือด เพื่อขจัดออกจากร่างกายทางระบบปัสสาวะขับถ่าย ช่วยรักษาอาการอักเสบของหลอดเลือด ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น สำหรับคนที่มีหลอดเลือดหัวใจตีบและแข็ง สามารถหลีกเลี่ยงการผ่าตัดบายพาสได้ถึง 85% ทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่นและขยายตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดปริมาณการเกิดอนุมูลอิสระ และการเกาะตัวของคอเลสเตอรอลที่ผนังหลอดเลือด รวมไปถึงลดอาการของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง ทำให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและสดชื่นขึ้น

ระยะเวลาในการให้น้ำเกลือแต่ละครั้ง ประมาณ 2.5 - 3 ชั่วโมง ระหว่างที่ให้น้ำเกลือสามารถพักผ่อน ดูโทรทัศน์ รับประทานอาหารว่าง อ่านหนังสือหรือฟังเพลงได้ตามปกติธรรมดา ภายหลังจากการเสร็จการรักษาสามารถประกอบกิจกรรมได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องนอนพัก

23 พ.ค. 2561 20:34   3462 Views
ส่งต่อบทความนี้ให้ผู้อื่น
FACEBOOK
LINE




บทความน่าสนใจ
บทความทั้งหมด
Bioplasma (ไบโอพลาสม่า)         เป็นเครื่องมือที่ช่วยรักษาและขจัดต้นเหตุการเกิดสิวเรื้อรัง สิวผด สิวติดสเตียรอยด์ ผิวแพ้ง่าย ผิวหยาบกร้าน ผิวอักเสบ ริ้วรอยเหี่ยวย่น หรือสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ด้วยการนำเทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ ส่งผ่านพลังงานพลาสมาแบบเย็น เข้าไปช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นให้มีการสร้างเซลล์ผิวขึ้นมาใหม่ ลดอาการอับเสบของสิว  โดยไม่มีบาดแแผล ไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด  และควบคุมการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ   หลักการทำงาน          นวัตกรรมของเครื่องไบโอพลาสมา เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุร่วมกับไมโครแฟรกชั่นแนลพลาสมา (Radiofrequency technology with Micro-fractional plasma Module : BIOPlasma) ก่อให้เกิดการเหนี่ยวนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีแรงดัน และคลื่นความถี่สูง ชนิดเป็นจังหวะ ผ่านพลังงานไปยังหัวจ่ายกึ่งตัวนำไฟฟ้า ทำให้เกิดพลังงานพลาสมา ซึ่งมีประจุอิสระบวกและลบ โอโซน และลำแสงโฟนตอนสีน้ำเงิน ออกมาทำให้เกิดการขจัดเซลล์ผิวชั้นนอกอย่างอ่อนโยน ระดับไมโครลึกลงไปถึงเซลล์ของผิว ทำให้สามารถขจัดคราบเคราตินที่อุดตัน และช่วยขจัดต้นเหตุของการเกิดสิว (P-acne) ขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออก  ขจัดเชื้อจุลาชีพเล็กๆ ที่เกาะบนผิว รวมถึงสามารถขจัดจุดด่างดำที่เกิดจากเม็ดสีที่ผิดปกติหรือผิวที่ตายแล้วออก เกิดกระบวนการซ่อมแซมผิวหนังที่อักเสบติดเชื้อ ลดกระบวนการอักเสบของผิวหนัง และจากคลื่นเรดิโอฟรีเควนซี่ ซึ่งมีผลต่อต่อมไขมันและการเกิดขน โดยคาดว่ากลไกคือ เกิดโคแอ๊กกูเลชั่น (coagulation) และต่อมไขมันหดตัว พร้อมมีการหยุดการทำงานชั่วคราว ปรับการสร้างเคอราตินให้กลับสู่ภาวะปกติ ส่งเสริมให้เกิดการหดตัวของชั้นผิว ก่อให้เกิดการกระชับผิว รวมถึงในระยะยาวจะส่งเสริมให้เกิดการเรียงตัวของชั้นคอลลาเจนในผิวดีขึ้น  ทั้งยังเกิดปฏิกิริยากับพื้นผิวชั้นนอกเกิดเป็นพลังงานโอโซนเป็นแสงสีน้ำเงินม่วง สามารถฆ่าเชื้อ ช่วยรักษาสิว และช่วยให้ลดอาการอักเสบที่เกิดจากสิวหรือผื่นแพ้ให้ดีขึ้นและหายไปในที่สุด อีกทั้งประจุอิสระ ยังช่วยการดูดซึมของสารอาหารลงสู่เซลล์ผิวได้ดีขึ้น เมื่อหลังทำจะสังเกตุเห็นได้ว่าผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น สุขภาพผิวดี และยังช่วยในการกระชับผิวอีกด้วย โดยพลังงานพลาสมาเย็นนี้ จะให้อุณหภูมิประมาณ 40-42 องศา ไม่ก่อให้เกิดบาดแผล ไม่มีอาการเจ็บปวด    ผู้ที่เหมาะสม ผู้มีปัญหาสิว ผิวเสีย ผิวหยาบกร้าน ผิวติดสเตียรอยด์ ผู้ที่มีปัญหาสิวผด ผื่นแพ้ ผู้ที่มีปัญหาหน้ามัน รูขุมขนกว้าง โรคผิวหนัง แผลเรื้อรัง และแผลทุกชนิด ริ้วรอยแห่งวัย ผิวไม่กระชับ ผิวหมองคล้ำไม่สดใส หม่นหมอง    ข้อควรระวังและผลข้างเคียง หลังทำควรพักหน้าเป็นระยะเวลา 15-20 นาทีก่อนแต่งหน้า หลังทำอาจมีอาการบวม แดง เล็กน้อย และจะหายไปเอง หลังทำอาจเกิดขุ่ยเล็กน้อยที่ใบหน้า หลังหน้าแห้งเล็กน้อย   ข้อห้ามในการใช้ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ติดเครื่องกระตุ้นหัวใจ บริเวณที่ใส่โลหะ    
อ่านบทความ
เวชศาสตร์ชะลอวัยคืออะไร        การมีสุขภาพดีและมีชีวิตที่ยืนยาวเป็นสุดยอดปรารถนาของคนทุกคนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เวชศาสตร์ชะลอวัยและการฟื้นฟูสุขภาพ (Anti-Aging and Regenerative Medicine) ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้คุณบรรลุเป้าหมายนั้นได้!        ร่างกายเราเป็นเหมือนรถยนต์ ถ้าเราเช็คสภาพรถทุกระยะตามที่กำหนด เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องไม่เคยขาด ตรวจเช็คอุปกรณ์เครื่องยนต์เสมอ รถของคุณก็ใช้ได้นานกว่ารถที่มีปัญหาบ่อยๆ เพราะไม่เคยได้รับการตรวจเช็คอย่างละเอียด เช่นเดียวกับร่างกายของเรา เมื่อก่อนเราจะมาหาหมอก็ต่อเมื่อเราเจ็บไข้       ได้ป่วยเท่านั้น และยังมีอีกคนอีกจำนวนหนึ่งที่คิดว่าการตรวจร่างกายประจำปีเพียงพอต่อสุขภาพแล้ว ความคิดเหล่านั้นอาจไม่ถูกทั้งหมด เพราะภายในร่างกายของเรายังมีส่วนบกพร่องที่ยังแฝงตัวอยู่        การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลตนเองจาก ‘การรักษา’ มาเป็น ‘การป้องกันและฟื้นฟู’ คือจุดกำเนิดของศาสตร์แห่งการฟื้นฟูสุขภาพ หรือ Regenerative Medicine คำว่า Regenerative ตรงกันข้ามกับคำว่า Degenerative ที่หมายถึงความเสื่อมและถดถอยของร่างกาย ความชราเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนหลีกหนีไม่ได้ แต่ด้วยวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบันที่พัฒนาไปไกลกว่าเดิมมาก ทั้งนวัตกรรมในการผลิตเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell) และโคลนนิ่งสิ่งมีชีวิต เราจึงมีวิธีที่จะช่วย ‘ชะลอ’ ความเสื่อมของร่างกายและในขณะเดียวกันก็เร่งการ ‘ฟื้นฟู’ ให้ร่างกายกลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง        Regenerative Medicine คือศาสตร์ทางการแพทย์ที่ใช้ป้องกันและฟื้นฟูร่างกายให้ดูดีจากภายในสู่ภายนอกแบบองค์รวม โดยจะมีการเช็คอัพร่างกายด้วยวิธีตรวจเลือด น้ำลายและปัสสาวะ คือตรวจเจาะลึกลงไปในระดับชีวโมเลกุล เพื่อดูว่าร่างกายมีความไม่สมดุลในเรื่องใดบ้าง (ความละเอียดระดับนาโน)        เมื่อตรวจพบต้นตอของปัญหานั้นแล้ว แทนที่จะใช้ยาเป็นตัวรักษา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะช่วยปรุงวิตามินอาหารเสริมแบบเฉพาะบุคคล (Customized supplements) ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ เพื่อเข้าไปช่วยฟื้นฟูร่างกาย และทำให้ร่างกายแข็งแรงและอ่อนวัยมากยิ่งขึ้น        ข้อดีของศาสตร์การแพทย์ด้านนี้ คือ นอกจากเป็นการดูแลแบบองค์รวมให้ร่างกายดูดีจากภายในสู่ภายนอกแล้ว ยังเป็นตรวจเพื่อดูถึงต้นเหตุที่ทำให้เกิดภาวะบกพร่องต่างๆ ไม่ว่าจะจากกรรมพันธุ์ สิ่งแวดล้อม การใช้ชีวิตประจำวัน ความเครียด การนอน และ การรับประทาน อาหารในแต่ละวัน        การรักษาในปัจจุบัน หากมีอาการเจ็บป่วย 10 อาการ เราอาจจะต้องไปปรึกษาแพทย์ถึง 10 แผนกด้วยกัน แต่ด้วยศาสตร์แห่งการชะลอวัย และฟื้นฟูสุขภาพ ที่จะเจาะลึกลงไปดูที่ต้นเหตุ และดูแลคนไข้แต่ละคนแบบองค์รวม (Holistic approach) เมื่อเราช่วยให้ปัญหาหลักคลี่คลายลงแล้ว อาการอื่นๆ ก็จะทุเลาลงไปเอง โดยที่ไม่ต้องรับประทานยาเพิ่ม        ด้วยจุดเด่นข้างต้นนี้เอง จึงไม่น่าแปลกที่ กระแสของ Anti-Aging and Regenerative medicine จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีการขยายวงกว้างไปในอีกหลายประเทศ จากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ไปสู่ประเทศต่างๆในแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา ในประเทศสหรัฐอเมริกามีการพัฒนาด้าน Anti-Aging and Regenerative medicine อย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันกลายเป็นผู้นำของศาสตร์การแพทย์ด้านนี้ Credit: Health Brings Wealth Magazine Issue: 8
อ่านบทความ




J Biohealth, Bioactive Peptide อาหารเสริม และนวัตกรรมทางสุขภาพที่เหมาะสมกับท่านที่สุดในเวลานี้

ติดต่อเรา
Tel: 088 830 1890
Tel: 081 542 9685
Tel: 089 291 4443
Email: JongsawadiClinic@gmail.com